LAIS ศูนย์วางแผนเรียนต่อต่างประเทศ ซัมเมอร์แคมป์ อังกฤษ อเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา เยอรมัน ทุกระดับชั้นเรียน

เรียนต่อมัธยมรัฐแคนาดา High School in Canada

หากพูดถึงประเทศแคนาดาก็ต้องยอมรับว่าเป็นประเทศที่ยังครองสมัยว่าเป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุดของโลก และถือว่ามีความปลอดภัยที่สูง ถ้าจะวัดกันแบบอัตราการก่ออาชญากรรมถือว่าต่ำมาก และมีแนวโน้มลดลงตลอด

ซึ่งแตกต่างจากอเมริกา ส่วนคุณภาพชีวิตต้องยอมรับว่า ชาวแคนาดาถือว่ามีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลก จึงไม่แปลกหากที่ผู้ปกครองจะเลือกประเทศแคนดาในการส่งบุตรหลานเข้าเรียนในระดับมัธยม  และที่สำคัญแคนาดาเป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักทั่วประเทศ และเป็นสำเนียงที่กลางหรือสำเนียงภาษาที่ถูกต้องชัดเจนจริงที่ใช้กันในทวีปอเมริกาเหนือ ยกเว้นเสียแต่ว่าในบางมณฑลที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นส่วนใหญ่อย่างควีเบค ดังนั้นหากผู้ปกครองถามว่าแล้วลูกจะได้สำเนียงอะไร ก็ต้องตอบว่าสำเนียงกลางที่ถูกต้อง ไม่ต้องกังวลว่าจะไปมณฑลไหนแล้วจะมีสำเนียงเหน่อ หรือเพี้ยน เป็นต้น ข้อกังวลนี้จึงเบาบางและตัดออกได้เลย

 

ประชากรในประเทศแคนาดาถือว่าน้อยกว่าประเทศไทยเป็นเท่าตัว  มีอยู่ราว ๆ 37.59 ล้านคน จำนวนประชากรนี้ถ้าเทียบสัดส่วนภูมิประเทศถือว่าไม่หนาแน่นเลย สภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติเขียวขจี อากาศที่คลีน ทำให้นักเรียนได้สัมผัสสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่งดงาม ถือว่าเป็นจุดแข็งในเรื่องของสภาพแวดล้อมที่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าทรัพยากรของเค้านั้นยังสมบูรณ์และน่าอยู่   การศึกษาในระดับมัธยม ผู้ปกครองสามารถเลือกได้ว่าจะเลือกแบบเอกชนหรือรัฐ ซึ่งโรงเรียนรัฐบาลก็จะเป็นโรงเรียนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ และมีการบริหารโรงเรียนโดยกรรมเขตของโรงเรียน ซึ่งต้องยอมรับว่าต่อให้เป็นรัฐบาลคุณภาพการศึกษาก็อยู่ในระดับสูง (อย่าเพิ่งนึกภาพเปรียบเทียบโรงเรียนรัฐกับบ้านเรานะครับ มันจะคนละทิศทาง) ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นร.ร.รัฐในแคนาดาจะเป็น สหศึกษา และโรงเรียนรัฐจะมีนักเรียนแคนาเดี่ยนมากกว่า 90% ซึ่งจะแตกต่างกว่าเอกชนที่จะมีสัดส่วนนักเรียนต่างชาติมากว่าและต้องทำความเข้าใจว่า ชาวแคนาเดี่ยนเองทั้งหมดเรียนโรงเรียนของรัฐ ถ้าผู้ปกครองถามว่าไปเอกชนจะเจอชาวแคนาดาเดี่ยนมั้ย เราก็ตอบตรง ๆ ว่าคงน้อยมาก เพราะว่าคนในสังคมที่นั้น เด็กพื้นที่ก็เรียนในพื้นที่นั้น ๆ เรียนโรงเรียนใกล้บ้าน เดินไปโรงเรียน บ้านอยู่เขตไหน ก็เรียนเขตนั้น ไม่ได้มีค่านิยมที่ต้องเดินทางไปเรียนไกล ๆ หรือเมืองอื่น เนื่องจากระบบคุณภาพการศึกษานั้นอยู่ในมาตรฐานเดียวกันนั้นเอง ก็คงเหมือนที่เราเห็นในภาพยนตร์ มีการเดินไปโรงเรียนกัน หรือถ้าไกลกว่า สองกิโล ก็นั่งรถนั่งเรียนสีเหลือง ๆ เดินทางไปกลับกัน ก็เป็นวิถีชีวิตของนักเรียนตามปรกติ

 

มาดูโรงเรียนรัฐตัวอย่างในสองเขตการศึกษาหลัก ๆ ที่แนะนำ

 

การศึกษาในระดับประถม จริง ๆ หากผู้ปกครองสนใจในระดับเล็กนี้ เราเคยมีผู้ปกครองที่สนใจอยากส่งลูกไปเรียนระยะสั้น ๆ ก่อน เพื่อดูความพร้อม ซึ่งถามว่าทำได้มั้ย ในบางโรงเรียนก็สามารถรับได้ แต่จะแนะนำว่าผู้ปกครองควรไปอยู่ด้วย เนื่องจากระดับเล็กการหาที่พักแบบโฮมสเตย์จะมีข้อจำกัด และเด็กควรได้รับการดูแลจากผุ้ปกครองในการไปรับไปส่งที่โรงเรียน โรงเรียนระดับเล็กที่เราแนะนำจะอยู่ในเขตเวอร์นอน ชื่อว่าโรงเรียน Mission Hill Elementary School รับนักเรียนตั้งแต่อายุ 6-12 ปี ถือว่าตัวเลือกโรงเรียนนี้ หมายความว่าผู้ปกครองจำเป็นต้องไปเช่าบ้านอยู่และไปรับไปส่งลูกในขณะที่เรียนระยะสั้นหรือยาวที่นู้นด้วยครับ เนื่องจากข้อจำกัดในการหาผู้ปกครองในการดูแลเด็กเล็กนั่นเอง และอีกอย่างในเมืองนี้มีประชากรน้อย การจะหาคนดูแลนั้นก็จะจำกัดไปด้วยนั่นเอง

 

การศึกษาในระดับมัธยม สำหรับในส่วนมัธยม สองเขตการศึกษาคือ

  • Golden Hills | Alberta
  • Vernon School District | British Columbia

 

Golden Hills School Division (GHSD) จะอยู่ชานเมือง Calgary รัฐอัลเบอร์ต้า เมือง Calgary ถูกจัดว่าเป็นเมืองที่มีคุณภาพดีที่สุดของโลกเลยทีเดียว สำหรับโรงเรียนในเขตนี้จะมี 3 ที่หลัก ๆ

1. โรงเรียนสแตรทมอร์ Strathmore High School ถือว่าเป็นโรงเรียนที่สเกลใหญ่สุดในสามโรงเรียนี้มีนักเรียนประมาณ 700 กว่าคน และมีหลักสูตร Advanced Placement  ที่พักสามารถเลือกได้ว่าจะอยู่หอพักหรือว่าเป็นโฮมสเตย์

2. โรงเรียนดรัม เฮลเลอร์ แวลี Drumheller Valley Secondary School จุดเด่นของที่นี้คือหอพักติดกับโรงเรียนเลย ถือว่าไม่ต้องเดินทางไปกลับ ลงมาก็เจอประตูทางเข้าโรงเรียน สำหรับคนที่ชอบการอยู่หอพักในโรงเรียนที่นี้คือจุดที่สะดวกสุด

3. โรงเรียนทรีฮิลส์ Three Hills School โรงเรียนเดียวที่รับสอนตั้งแต่อนุบาล หากว่ามีนักเรียนที่อายุน้อย ก็จะต้องมาเรียนที่นี้นั่นเอง จึงเหมาะกับผู้ปกครองที่ต้องการส่งลูกไปเรียนในระดับประถมเป็นต้น ซึ่งในเมืองนี้มีประชากรเพียงแค่ 3500 คน ดังนั้นการหาที่พักแบบโฮมสเตย์ จะมีตัวเลือกไม่ได้มาก หากบางคนถามว่าแล้วจะเปลี่ยนโฮสได้มั้ย หากลูกอยู่แล้วไม่สบายใจ ก็ต้องเรียนตามตรงว่าจุดนี้คืออุปสรรค และข้อจำกัดนั่นเอง

Vernon School District  อันนี้อยู่ที่เมืองเวอร์นอน ในหุบเขา Okanagen รัฐบริติชโคลัมเบีย เมืองนี้มีประชากรประมาณ 57,000 คน ซึ่งในขณะที่กรุงเทพของเรามีเกือบ 8 ล้านกว่าคน คงจะเห็นภาพได้ชัดว่าบรรยากาศจำนวนประชากรขนาดนี้ ทำให้เมืองนั้นน่าอยุ่เพียงใด การเดินทางลงเครื่องจากสนามบินแวนคูเวอร์ต่อเครื่องภายในประเทศมาลงที่เมืองเคโลวนา ประมาณ 50 นาทีและโฮสก็จะมารับเดินทางไปเวอร์นอนประมาณ 30 นาที ที่นี้ให้นึกถึงบรรยากาศเขาใหญ่บ้านเรา มีทะเลสาบ ภูเขาสวยงาม โรงเรียนในเขตนี้ก็จะมีแม่น้ำ ภูเขาและทะเลสายสวยงาม

 

สำหรับที่เครือเวอร์นอน จะมีโรงเรียนมัธยม อยู่ 5 ที่โดยเรียงจากจำนวนนักเรียนที่มากที่สุด

 

1. โรงเรียนเวอร์นอน Vernon Secondary School ถ้านับจากจำนวนนักเรียนที่นี้ถือว่าเยอะสุด ราว ๆ พันกว่าได้และก็ถือว่าเป็นโรงเรียนที่ใกล้แหล่งศูนย์กลางมากสุด ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปซื้อของต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน

2. โรงเรียน ดับเบิล ยู แอล ซีตัน L. Seaton Secondary School ก็มีนักเรียนใกล้เคียงกับเวอร์นอน จุดเด่นก็เหมาะสำหรับนักเรียนที่ต้องการเรียนภาษาฝรั่งเศสแบบอิมเมอร์ชั่น

3. โรงเรียนคลาเรนซ์ ฟุลตัน Clarence Fulton Secondary School ถ้าชอบด้านกีฬาที่นี้ถือว่าเด่น

4. โรงเรียนคัลลามัลกา Kalamalka Secondary School นักเรียนจำนวน 500 กว่าคน

5. โรงเรียนชาร์ลส์ บลูม Charles Bloom Secondary School ถือว่ามีนักเรียนจำนวนน้อยสุดในสี่โรงเรียนในเครือด้านบน ข้อดีของนรที่น้อย แน่นอนเรื่องของการดูแลและจำนวนในห้องเรียนที่ใกล้ชิด เหตุผลที่น้อย เป็นในส่วนของสถานที่ตั้งที่อยู่ไกลสุดนั้นเอง

 

Accommodation เลือกที่พักแบบไหนให้เหมาะสม?

Homestay สำหรับในเขตเวอร์นอนนี้ จะเป็นที่พักแบบโฮมสเตย์เท่านั้น ซึ่งข้อดีของการอยู่แบบโฮมสเตย์คือการได้อยู่ห้องพักเดี่ยว ได้อยู่กับครอบครัวแคนาเดี่ยน ความที่เป็นเมืองเขตเล็ก ๆ และเป็นชนบทก็ต้องยอมรับว่าเราจะเห็นความเป็นอยู่ที่แท้จริงของชาวแคนาเดี่ยนนั่นเอง ความเห็นเพิ่มเติมการได้พักแบบนี้ นักเรียนจะเห็นวิถีของคนในพื้นเมืองอย่างแท้จริง และการช่วยเหลือที่เข้าถึงก็ถือว่าการพักแบบมีผู้ใหญ่ดูแลถือว่ายังมีความอุ่นใจได้ระดับหนึ่ง ถึงแม้ว่าบางคนอาจจะคิดว่าและการเข้ากันได้ดีกับครอบครัว ว่าเค้าจะดีกับลูกเราหรือไม่ นั้นอาจจะเป็นข้อกังวลที่เข้าใจได้ แต่เราก็ต้องเปิดใจว่ามันก็อาจจะเกิดขึ้นได้ แต่ก็ไม่เสมอไป ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะมองเหรียญด้านเดียวอาจจะไม่ได้ ในบางกรณีเราก็ต้องมองที่ตัวนักเรียนด้วยเช่นกันเช่น การสื่อสารและทำความเข้าใจในสังคมที่ต่างกัน การคาดหวังที่สูงล้วนเป็นช่องว่างที่ทำให้มีความกังวลที่สูงเกินไปได้  ในมุมที่ดีก็จะเห็นได้อยู่มากสำหรับโฮมสเตย์ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงสังคมแบบตะวันตกที่แท้จริง ก็เหมือนกับเวลานักท่องเที่ยวฝรั่ง ทำไมถึงชอบไปอยู่เมืองไทยที่ทุรกันดานบ้านเรา การได้พักแบบนี้จะเห็นรากเหง้าสังคมได้โดยแท้นั่นเอง แต่จุดแข็งของสองเขตการศึกษาในสองที่นี้คือ การเลือกโฮสและครอบครัวให้นักเรียนนั้นดูแลจัดสรบริหารผ่านโรงเรียนโดยตรง ไม่ได้มีหน่วยงานเอกชนเข้ามาจัดการ ดังนั้นการเลือกครอบครัวซึ่งคัดโดยโรงเรียนและบริหารโดยโรงเรียนถือว่าสร้างความมั่นใจได้ระดับสูง ว่าการเข้าถึงปัญหาต่าง ๆ จะอยู่การดูแลของโรงเรียน ไม่ใช่บริษัทเอกชน

 

หอพัก แต่หากต้องการเลือกหอพักใกล้โรงเรียน ตัวเลือกของเขต Golden Hill เช่นโรงเรียน Drumheller จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม  แล้วเหมาะกับใคร สำหรับตัวเลือกนี้นักเรียนจะได้แชร์กับนักเรียนชาติอื่น โรงเรียนดูแล ครูที่หอพักจะบริหารการจัดการ นักเรียนที่อยู่จะต้องบริหารจัดการช่วยเหลือตัวเองเยอะกว่าแบบโฮมสเตย์ ซึ่งจุดแข็งทำให้นักเรียนไทยมีความรับผิดชอบที่สูงขึ้น ฝึกวินัยได้หลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการอยู่ร่วมกับผู้อื่น การดูแลตัวเอง การสื่อสารพูดคุยกับครูที่หอพัก และเพื่อน ๆ ที่อยู่ร่วมกันในหอ และเดินทางสะดวกเนื่องจากหอพักอยู่ติดกับโรงเรียนเลย จะหมดความกังวลเรื่องปัญหาที่คลาสสิคอย่าง จะเข้ากับครอบครัวแคนาเดี่ยนได้มั้ย การนอนตื่นสายไปไม่ทันโรงเรียน การเดินทางในช่วงหน้าหนาว เป็นต้น ตัวเลือกนี้ก็จะเป็นทางเลือก  แต่ในเขตนี้ก็ยังมีตัวเลือกแบบโฮมสเตย์ด้วยเช่นกัน เท่ากับว่า Golden Hill นั้นมีตัวเลือกการพักแบบสองแบบคือ หอพัก และโฮมสเตย์ ถ้าอยากอยู่แบบติดโรงเรียนเลือกที่ Drumheller ไป หรือโฮมสเตย์ก็ได้เช่นกัน แต่การอยู่หอพักไม่เหมาะกับเด็กเล็กประถมซึ่งควรอยู่ในความดูแลของผู้ใหญ่แบบโฮมสเตย์

 

เตรียมการเงินเท่าไหร่ในการเรียนโรงเรียนรัฐในแคนาดา (5-6 แสนบาทต่อปีเท่านั้น)

เอาแบบเข้าใจง่าย ๆ ตัวเลขกลม ๆ สำหรับสองเขตการศึกษานี้ คือ Golden Hill and Vernon หากผู้ปกครองเลือกแบบโฮมสเตย์ จะอยู่ประมาณ 5.5 แสนบาทไทยต่อปีรวมค่าเรียน ค่าประกันสุขภาพ ค่าที่พักอาหาร ค่าโฮส ซึ่งค่าใช้จ่ายที่เหลือที่ผู้ปกครองต้องเตรียมแยกมีแค่ค่า Pocket money  ซึ่งแล้วแต่ว่าแต่ละครอบครัวจะบริหารการจัดการเท่าไหร่

 

แต่ถ้าเลือกแบบหอพัก ให้เตรียมเงินปีละ 6 แสนต้น ๆ ไม่เกิน ซึ่งก็รวมหมดแล้ว เนื่องจากโรงเรียนจะคิดรวมมาเลย ค่าเรียน ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าประกันสุขภาพ ก็เลือกที่ค่าใช้จ่ายส่วนตัวเท่านั้น

ส่วนค่าวีซ่า ค่าตรวจสุขภาพ ที่ต้องเตรียมไม่มากแล้วในส่วนนี้ อยู่ราว ๆ หมื่นต้นๆ ที่ต้องใช้ในการดำเนินการขอวีซ่า

ซึ่งจะการเรียนโรงเรียนแคนาดาจะไม่มีอะไรจุกจิกเกินกว่าข้างบนนี้แล้ว

 

สรุป ค่าใช้จ่ายในการเรียนรวมหมดทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ค่าเรียน ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าประกันสุขภาพ ผู้ปกครองเตรียมไว้ต่อปีที่ประมาณ 5-6 แสนบาทไทยเท่านั้น และสามารถแบ่งจ่ายสองเทอมได้

 

เตรียมเงินเท่าไหร่ในการยื่นวีซ่า

เจ้าหน้าที่จากศูนย์ของเราจะช่วยเหลือทุกขั้นตอนไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแปลเอกสาร การกรอกวีซ่าเข้าระบบ จะมีเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือทุกขั้นตอน ผู้ปกครองและนักเรียนเพียงเตรียมเอกสารให้ทางเราเท่านั้น เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนักเรียนทุกท่าน สำหรับเงินที่ผู้ปกครองควรแสดง ตัวเลขที่สมเหตุสมผล

 

ผู้ปกครองควรแสดงเงินในบัญชีออมทรัพย์ 1 ล้านบาทขั้นไป เป็นตัวเลขกลม ๆ จำนวนนี้เรามองว่าอยู่ในระยะปลอดภัย และหลักฐานการทำงานต่าง ๆ เช่น หากมีธุรกิจส่วนตัวแสดงใบจดทะเบียนบริษัท หากเป็นพนักงาน แสดงจดหมายรับรองการทำงานและ สลิปเงินเดือน และบัญชีที่รับเงินเดือน

 

ขั้นตอนการสมัครเรียนโรงเรียนมัธยมแคนาดา

เมื่อนักเรียนและผู้ปกครองได้รับข้อมูลเรียบร้อย สามารถเตรียมเอกสารในการเรียนดังต่อไปนี้

  • ทรานสคริปภาษาอังกฤษย้อนหลัง 3 ปี
  • สำเนาพาสปอร์ต
  • เรียงความหนึ่งหน้ากระดาษ ทำไมถึงเลือกเรียนที่แคนาดา วางแผนอนาคตเรียนอะไร ประวัติส่วนตัวของเรา กิจกรรมนอกห้องเรียนที่ชอบ เป็นต้น

เจ้าหน้าที่จะเตรียมเอกสารและกรอกใบสมัครให้ผู้ปกครอง และทำการตรวจสอบเอกสารทั้งหมดส่งให้โรงเรียน  จากนั้นหากโรงเรียนตอบรับ โรงเรียนก็จะส่งใบยืนยันตอบรับ และอินวอย์เพื่อทำการชำระเงิน ผู้ปกครองสามารถนำใบอินวอย์ไปจ่ายที่แบงค์ได้ และนำใบชำระค่าเทอมส่งมาให้ทางเรา เพื่อให้เราแจ้งโรงเรียนเป็นลำดับต่อไป

 

ระยะเวลาในการเตรียมตัวทั้งหมด

ทามไลน์คราว ๆ หากผู้ปกครองพร้อมส่งเอกสาร ทั้งหมดดังกล่าวข้างบน เจ้าหน้าที่จะดำเนินการส่งเอกสารภายใน 24 ชั่วโมง การตอบรับจากโรงเรียนไม่เกินหนึ่งอาทิตย์ก็จะได้รับการตอบรับ   สัปดาห์ที่สองผู้ปกครองก็สามารถนำใบอินวอย์ไปชำระที่แบงค์ได้ และส่งใบเสร็จถ่ายมาให้เรา และรอเอกสารตัวจริงส่งมาจากแคนาดาไม่น่าจะเกินหนึ่งเดือน เพื่อทำวีซ่าต่อไป ระหว่างที่เรารอเอกสารตัวจริง เจ้าหน้าที่จะเตรียมเอกสารวีซ่ารอไว้ในฝั่งของนักเรียนทั้งหมด เมื่อเอกสารจากโรงเรียนมาถึงก็สามารถทยอยทำตามลำดับ ส่วนระยะเวลาในการขอวีซ่าก็ขึ้นอยู่กับช่วง และอำนาจของสถานทูตในการพิจารณา เร็วหรือไวนั้นแต่ละคนแต่ละช่วงไม่เหมือนกัน แต่คราว ๆในการพิจารณาอนุมัติวีซ่าจากประสบการณ์ นานสุดที่เราเจอประมาณหนึ่งเดือนนับจากสถิติจากประสบการณ์ของเราซึ่งถือว่าการพิจารณาก็ค่อนข้างทำได้ไวและอยู่ในขั้นตอนที่เหมาะสมกับเวลา

 

ผู้ปกครองสามารถปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย เพิ่มเติมได้ที่ตัวแทนประเทศไทย ศูนย์วางแผนเรียนต่อต่างประเทศ The Lion Academy of International Studies T: 02-074-9020 Line ID: thelionacademy  ไม่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินเอกสารใด ๆ ทั้งสิ้น