LAIS ศูนย์วางแผนเรียนต่อต่างประเทศ ซัมเมอร์แคมป์ อังกฤษ อเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา เยอรมัน ทุกระดับชั้นเรียน

สำหรับนักเรียนที่มี American Dream ต้องการเลือกจุดหมายประเทศใหญ่อย่างอมริกา หากจุดเริ่มต้นต้องการไปเรียนอเมริกา ด้วยโครงสร้างเป็นประเทศที่ใหญ่ มีถึง 50 รัฐสิ่งที่นักเรียนควรทำคือการ narrow search ว่าอยากไปที่รัฐไหนเมืองไหน ทำการบ้านและหาข้อมูลถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

 

Study in America

 

 

  1. เลือก LOCATION

รัฐ หรือเมืองที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ หรือบัตเจต ซึ่งโรงเรียนภาษาส่วนใหญ่ก็จะตั้งอยู่ในเมืองหลัก ๆ ใหญ่ รอบอเมริกา และราคาก็อาจจะแตกต่างกันไปนิดหน่อย

  1. Alabama (AL)
  2. Alaska (AK)
  3. Arizona (AZ)
  4. Arkansas (AR)
  5. California (CA)
  6. Colorado (CO)
  7. Connecticut (CT)
  8. Delaware (DE)
  9. Florida (FL)
  10. Georgia (GA)
  11. Hawaii (HI)
  12. Idaho (ID)
  13. Illinois (IL)
  14. Indiana (IN)
  15. Iowa (IA)
  16. Kansas (KS)
  17. Kentucky (KY)
  18. Louisiana (LA)
  19. Maine (ME)
  20. Maryland (MD)
  21. Massachusetts (MA)
  22. Michigan (MI)
  23. Minnesota (MN)
  24. Mississippi (MS)
  25. Missouri (MO)
  26. Montana (MT)
  27. Nebraska (NE)
  28. Nevada (NV)
  29. New Hampshire (NH)
  30. New Jersey (NJ)
  31. New Mexico (NM)
  32. New York (NY)
  33. North Carolina (NC)
  34. North Dakota (ND)
  35. Ohio (OH)
  36. Oklahoma (OK)
  37. Oregon (OR)
  38. Pennsylvania (PA)
  39. Rhode Island (RI)
  40. South Carolina (SC)
  41. South Dakota (SD)
  42. Tennessee (TN)
  43. Texas (TX)
  44. Utah (UT)
  45. Vermont (VT)
  46. Virginia (VA)
  47. Washington (WA)
  48. West Virginia (WV)
  49. Wisconsin (WI)
  50. Wyoming (WY)

 

  1. เลือกลักษณะของโรงเรียนที่ต้องการไปเรียน

ซึ่งส่วนใหญ่เราจะแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ

 

  1. Private English Schools
  • โรงเรียนเอกชน Global Brand ที่มีสาขาหลาย ๆ ประเทศ เช่น Kaplan, LSI, EC, โรงเรียนกลุ่มเอกชนจะมีสาขาหลัก ๆ ทั่วอเมริกา และมีโปรโมชั่นให้เลือกหลากหลาย
  • โรงเรียนที่เป็นของ Local Brand โรงเรียนภาษาประเทนี้ เราจะเห็นว่าเป็นโรงเรียนหลัก ๆ ในเมืองนั้น มีสาขาในแค่เมืองนั้น มีที่ตั้งสาขาเดียว เช่น Portland English Language Academy เราก็จะสังเกตได้ว่าเป็นชื่อเมือง ๆที่ตั้งเป็นชื่อโรงเรียนด้วยเช่นกัน

 

2. University English Language Centreศูนย์ภาษาที่อยู่ในมหาวิทยาลัย หรือวิทยาลัย ในมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะมีศูนย์ภาษา ซึ่งโดยปรกติมหาวิทยาลัยจะมีศูนย์ภาษารองรับให้นักเรียนต่างชาติ เตรียมตัวในการเรียนในระดับปริญญาขึ้นไปเป็นต้น และเปิดรับสอนภาษาให้กับบุคคลที่สนใจทั่วไปด้วยเช่นกัน แต่การเรียนในศูนย์ของมหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่วันเริ่มเรียนจะมีกำหนดเวลาที่ชัดเจน ซึ่งอาจจะไม่ได้เริ่มทุกวันจันทร์ แต่ส่วนใหญ่ก็เริ่มเรียนได้เกือบทุกเดือนเช่นกันข้อดี การเรียนภาษาในศูนย์ของมหาวิทยาลัยคือ สถานที่ที่มีความชัดเจน มีพื้นที่ขนาดที่ใหญ่กว่า ได้ใช้ Facilities ภายในมหาวิทยาลัยด้วย เช่น ห้องสมุด, Internet Centre, Café ร้านอาหาร และที่เดอะไลอ้อนเห็นชัดเจนอีกข้อคือ การได้เห็นบรรยากาศการเรียนการสอนที่ บรรยากาศมหาวิทยาลัย นักเรียนท้องถิ่นที่ต้องเข้ามาเรียนแบบปรกติ

 

คอร์สที่ส่วนใหญ่เปิดสอนในศูนย์ภาษาของมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ

General English: เรียนภาษอังกฤษทั่วไป

Academic English: เรียนภาษาเน้นวิชาการ 

One-to-One Tuition: เรียนตัวต่อตัว 

ตัวอย่างเช่น  UCLA Extension, เรียนภาษากับยูซีแอลเอ โปรแกรมภาษาอังกฤษ Academic Intensive English Program UCLA Extension มีหลักสูตรเรียนภาษาอังกฤษ Full Time program ตลอดทั้งปี

หรือในมหาวิทยาลัยดัง The University of Pennsylvania’s English Language Programs คลิกลิงค์ข้อมูลเพิ่มเติม

https://www.laisinterstudy.com/blog/เรียนต่อภาษาอเมริกาในมหาวิทยาลัย-american-language-centers-at-universities

 

3. เลือกระยะเวลา Length of Study  

กำหนดระยะเวลาที่ต้องการไปศึกษาต่อ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะสัมพันธ์กับบัตเจตและระดับภาษาของนักเรียน เช่น 6 เดือน หรือ 10 เดือนเป็นต้น และเลือกเดือนที่เราต้องการเดินทางไปเรียน  นักเรียนควรเผื่อเวลาอย่างน้อย ๆ ในการยื่นขอวีซ่าด้วยเช่นกัน การเตรียมตัวล่วงหน้านาน ๆ มีแต่ข้อดี ไม่มีข้อเสีย

นักเรียนภาษาสามารถเลือกวันเดือนปีได้ เช่น ร.ร. เอกชนประเภทแรก สามารถเริ่มเรียนได้ทุก ๆ วันจันทร์

ส่วนในประเภทที่สองนั้น ส่วนใหญ่จะมีตารางเรียนปฏิทินค่อนข้างชัดเจนว่าเปิดเมื่อไหร่

 

4. เตรียมเงินให้เหมาะสม Financial Matter

จะบอกว่าไม่สำคัญไม่ได้ งบประมาณ และสถานะการเงิน ผู้สนับสนุนเป็นสปอนเซอร์ในการเรียน เนื่องจาก โรงเรียนจะขอดู Statement ว่าคลอบคลุมต่อการดำรงชีพ และค่าเทอม เอกสารนี้จะต้องเตรียมยื่นทันที เมื่อส่งให้ใบสมัครให้โรงเรียน หรือหลังจากยื่นใบสมัครไปนิดหน่อย  ส่วนว่าต้องเตรียมเท่าไหร่ ให้คำนวณง่าย ๆ ตามระยะเวลาที่เราไปเรียน เช่น เรียน 1 ปี ควรมีอย่างต่ำกลม ๆ คำนวน ง่าย ๆ 1 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนค่าเรียนเท่าไหร่ก็ควรมีเท่านั้นตามหลัก ค่าเรียน บวกค่าครองชีพ  ดังนั้น นักเรียนที่คิดจะไปเรียนต่อ จำนวนเงินที่แสดงต้องมีชัดเจน ถึงแม้ว่าเงินจะไม่ใช่ตัวแปลทั้งหมดในการได้วีซ่า แต่ก็นับว่าเป็นด่านแรกที่จะทำให้เจ้าหน้าที่โรงเรียนและสถานทูตเชื่อมั่นได้ว่า เป็นนักเรียนที่แท้จริง บางคนบอกว่ามีไม่ถึงเป็นคำถามเหมือนไม่ได้เตรียมตัวไปต่างประเทศเลย คำตอบ ไม่ถึงเราก็ไปเตรียมให้ถึงครับไม่ต้องรีบครับ ทุกอย่างควรมีการวางแผน หากต้องการไปเรียนต่างประเทศและเป็นประเทศที่เป็นมหาอำนาจใหญ่ นอกจากจะต้องมีคุณสมบัติที่ดีตามกฎ เงินก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญท้ายสุดอยู่ดีครับ

 

5เตรียมตัวเรื่องวีซ่า สัมภาษณ์ Visa and Interview

เรื่องวีซ่า พูดไปยาว ๆ ได้เลยครับ สำหรับนักเรียนที่จะไปเรียนภาษา จะบอกว่ายากก็ยากอยู่ แต่สิ่งที่ว่ายากนั้น เรามองว่าอยู่ที่ตัวนักเรียนในการจะให้สัมภาษณ์ด้วยข้อมูลที่ แต่มีคำแนะนำจากสถิติที่พอรวบรวมได้มาเพื่อเป็นความรู้ละกันครับ ทางศูนย์เราไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ในการให้คำตอบหรือการันตีได้ว่านักเรียนคน ๆ นั้นจะได้วีซ่าหรือไม่อย่างไร เพราะคนที่จะอนุมัติวีซ่าหรือเจ้าหน้าที่ในสถานทูต ยกตัวอย่างเป็นเคสให้ฟัง ในเคสที่ไม่ค่อยจะได้

 

ส่วนใหญ่มักมีเหตุการณ์ หรือ มีความเหมือน ๆ กันหลายอย่างๆ  เช่น

  • คนที่ไม่เคยเดินทางมาก่อนเลย แบบพาสปอร์ตขาว ๆ แล้วจะขอวีซ่าอเมริกาเป็นครั้งแรก จะบอกว่าสถิตินี้รอดยากมากครับ
  • อธิบายไม่ชัดเจน ภาษาบ้าน ๆ คือ พูดจาวกวน มีความกลัว รก ๆ รน ๆ ตอบแบบไปไม่เป็น ไปงง ๆ ประหม่า และตอบไม่ตรงคำถาม ถึงแม้ว่าเราจะภาษาไม่ได้นะครับ ไม่ได้หมายความว่าเราพยายามอธิบายไม่ได้นะครับ บางคนตอบไปคนละทิศละทาง บางคนก็เลี้ยวโค้งไม่เค้าลำสักที หรือบางคนก็กลัวจนตอบไม่ถูก อึ้ง แบบนี้ไม่รอดนะคับ แต่บางคนที่ภาษาไม่ได้ แต่สภาวะข้างบนไม่มีเลย มีน้องนักเรียนที่ภาษาไม่ได้ดีเลย ว่ากันว่าติดลบก็ว่าได้ แต่ว่ามีความพยายามจะตอบ ผิดถูกแต่เข้าใจพยายามสื่อสาร และชัดเจนในการตอบ แกรมม่าก็หลงทาง แต่สำคัญเค้าพยายามฟัง และพยายามตอบด้วยความมุ่งมั่น อันนี้ก็สำเร็จได้เช่นกันครับ

 

ให้คิดหลักสั้น ๆ ว่า เจ้าหน้าที่มองป้าดเดียวจริง ๆ บางคนใช้เวลานับลมหายใจไม่ถึง ยี่สิบครั้ง ก็รู้ผลแล้วว่าได้ไม่ได้  เจ้าหน้าที่เค้าเห็นใบสมัครมาเยอะครับ เค้ามองรู้คาแรคเตอร์และเข้าใจลักษณะของผู้สมัครประเภทไหนที่เค้าอยากได้เข้าประเทศ การตอบคำถามให้ตรงใจกรรมการ พูดง่าย ๆ ยกตัวอย่าง นางงามจักรวาลควรตอบคำถามให้ถูกใจสายตากรรมการ มีกึ๋น มีปฏิภาณ ถึงชนะใจใช่มั้ยครับ เคสแบบนี้ก็คล้าย ๆ กัน ตอบให้ถูกใจเค้า นั้นแหละครับ

 

 Banner 2

 

สำหรับนักเรียนที่สมัครเรียนกับสถาบันการศึกษาผ่านทางศูนย์เรา ทางเราก็จะแนะนำเตรียมเอกสารให้ตรงตามกฎหมายที่สถานทูตต้องการ แต่ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการที่จะบอกหรือการันตีว่าผู้สมัครจะได้วีซ่าหรือไม่นะครับ การแนะนำเป็นเพียงการแชร์ประสบการณ์เล่าเรื่องราวจากสถิติจำนวนนักเรียนที่ผ่านมาเพื่อเป็นการแสดงความรู้แลกเปลี่ยนกัน ศูนย์ให้คำแนะนำเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกจากความรู้และประสบการณ์ด้วยความสุจริตและเต็มความสามารถที่มี

 

Content Owner: LAIS ข้อมูลอัพเดท ณ วันที่ 27/12/2021

 

The Lion Academy of International Studies

B Floor, Fashion Island Shopping Mall, Island Academy Zone, Ramintra Road, Bangkok 10230

Working hours Tuesdays – Fridays 10.00 am -19.00 pm Saturdays - Sundays 10.00 am -18.00 pm.

The Lion Academy of International Studies

Lion Academy  คือศูนย์วางแผนเรียนต่อต่างประเทศ เรียนต่ออังกฤษ เรียนต่ออเมริกา เรียนต่อออสเตรเลีย เรียนต่อนิวซีแลนด์ เรียนต่อแคนาดา หากมองหา ที่ปรีกษาในการเรียนต่อต่างประเทศ เราพร้อมให้คำปรึกษาฟรีทุกขั้นตอนตั้งแต่การเลือกสถาบันการศึกษาที่เหมาะสมกับความต้องการ และความสามารถของนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนภาษาระยะสั้นไปจนถึงระดับปริญญาเพื่อต่อยอดอนาคตของท่าน

ฟรี! ให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศ แนะแนวทางการเรียนต่อต่างประเทศ  สนใจเรียนต่อต่างประเทศติดต่อมาที 

The Lion Academy เราพร้อมให้ข้อมูลคุณ หรือ ใส่ข้อมูลติดต่อเบื้องต้นเพียงเล็กน้อยที่ฟอร์มด้านล่าง เราจะรีบติดต่อกลับโดยเร็วทึ่สุด..

*** หลังจากกดส่งแล้ว รบกวนรอ 5 วินาที ในการส่งนะคะ

ช่องทางการติดต่อเพิ่มเติม

หรือลูกค้าสามารถติดต่อเราผ่านทาง LINE ID เพียงคลิ๊กที่ลิงค์ด้านล่างได้เลยค่ะ...!

Tel. 02-074-9020 , Mobile 097-080-5659