สำหรับนักเรียนที่มี American Dream ต้องการเลือกจุดหมายประเทศใหญ่อย่างอมริกา หากจุดเริ่มต้นต้องการไปเรียนอเมริกา ด้วยโครงสร้างเป็นประเทศที่ใหญ่ มีถึง 50 รัฐสิ่งที่นักเรียนควรทำคือการ narrow search ว่าอยากไปที่รัฐไหนเมืองไหน ทำการบ้านและหาข้อมูลถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
- เลือก LOCATION
รัฐ หรือเมืองที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ หรือบัตเจต ซึ่งโรงเรียนภาษาส่วนใหญ่ก็จะตั้งอยู่ในเมืองหลัก ๆ ใหญ่ รอบอเมริกา และราคาก็อาจจะแตกต่างกันไปนิดหน่อย
- Alabama (AL)
- Alaska (AK)
- Arizona (AZ)
- Arkansas (AR)
- California (CA)
- Colorado (CO)
- Connecticut (CT)
- Delaware (DE)
- Florida (FL)
- Georgia (GA)
- Hawaii (HI)
- Idaho (ID)
- Illinois (IL)
- Indiana (IN)
- Iowa (IA)
- Kansas (KS)
- Kentucky (KY)
- Louisiana (LA)
- Maine (ME)
- Maryland (MD)
- Massachusetts (MA)
- Michigan (MI)
- Minnesota (MN)
- Mississippi (MS)
- Missouri (MO)
- Montana (MT)
- Nebraska (NE)
- Nevada (NV)
- New Hampshire (NH)
- New Jersey (NJ)
- New Mexico (NM)
- New York (NY)
- North Carolina (NC)
- North Dakota (ND)
- Ohio (OH)
- Oklahoma (OK)
- Oregon (OR)
- Pennsylvania (PA)
- Rhode Island (RI)
- South Carolina (SC)
- South Dakota (SD)
- Tennessee (TN)
- Texas (TX)
- Utah (UT)
- Vermont (VT)
- Virginia (VA)
- Washington (WA)
- West Virginia (WV)
- Wisconsin (WI)
- Wyoming (WY)
- เลือกลักษณะของโรงเรียนที่ต้องการไปเรียน
ซึ่งส่วนใหญ่เราจะแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ
- Private English Schools
- โรงเรียนเอกชน Global Brand ที่มีสาขาหลาย ๆ ประเทศ เช่น Kaplan, LSI, EC, โรงเรียนกลุ่มเอกชนจะมีสาขาหลัก ๆ ทั่วอเมริกา และมีโปรโมชั่นให้เลือกหลากหลาย
- โรงเรียนที่เป็นของ Local Brand โรงเรียนภาษาประเทนี้ เราจะเห็นว่าเป็นโรงเรียนหลัก ๆ ในเมืองนั้น มีสาขาในแค่เมืองนั้น มีที่ตั้งสาขาเดียว เช่น Portland English Language Academy เราก็จะสังเกตได้ว่าเป็นชื่อเมือง ๆที่ตั้งเป็นชื่อโรงเรียนด้วยเช่นกัน
2. University English Language Centreศูนย์ภาษาที่อยู่ในมหาวิทยาลัย หรือวิทยาลัย ในมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะมีศูนย์ภาษา ซึ่งโดยปรกติมหาวิทยาลัยจะมีศูนย์ภาษารองรับให้นักเรียนต่างชาติ เตรียมตัวในการเรียนในระดับปริญญาขึ้นไปเป็นต้น และเปิดรับสอนภาษาให้กับบุคคลที่สนใจทั่วไปด้วยเช่นกัน แต่การเรียนในศูนย์ของมหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่วันเริ่มเรียนจะมีกำหนดเวลาที่ชัดเจน ซึ่งอาจจะไม่ได้เริ่มทุกวันจันทร์ แต่ส่วนใหญ่ก็เริ่มเรียนได้เกือบทุกเดือนเช่นกันข้อดี การเรียนภาษาในศูนย์ของมหาวิทยาลัยคือ สถานที่ที่มีความชัดเจน มีพื้นที่ขนาดที่ใหญ่กว่า ได้ใช้ Facilities ภายในมหาวิทยาลัยด้วย เช่น ห้องสมุด, Internet Centre, Café ร้านอาหาร และที่เดอะไลอ้อนเห็นชัดเจนอีกข้อคือ การได้เห็นบรรยากาศการเรียนการสอนที่ บรรยากาศมหาวิทยาลัย นักเรียนท้องถิ่นที่ต้องเข้ามาเรียนแบบปรกติ
คอร์สที่ส่วนใหญ่เปิดสอนในศูนย์ภาษาของมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ
General English: เรียนภาษอังกฤษทั่วไป
Academic English: เรียนภาษาเน้นวิชาการ
One-to-One Tuition: เรียนตัวต่อตัว
ตัวอย่างเช่น UCLA Extension, เรียนภาษากับยูซีแอลเอ โปรแกรมภาษาอังกฤษ Academic Intensive English Program UCLA Extension มีหลักสูตรเรียนภาษาอังกฤษ Full Time program ตลอดทั้งปี
หรือในมหาวิทยาลัยดัง The University of Pennsylvania’s English Language Programs คลิกลิงค์ข้อมูลเพิ่มเติม
https://www.laisinterstudy.com/blog/เรียนต่อภาษาอเมริกาในมหาวิทยาลัย-american-language-centers-at-universities
3. เลือกระยะเวลา Length of Study
กำหนดระยะเวลาที่ต้องการไปศึกษาต่อ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะสัมพันธ์กับบัตเจตและระดับภาษาของนักเรียน เช่น 6 เดือน หรือ 10 เดือนเป็นต้น และเลือกเดือนที่เราต้องการเดินทางไปเรียน นักเรียนควรเผื่อเวลาอย่างน้อย ๆ ในการยื่นขอวีซ่าด้วยเช่นกัน การเตรียมตัวล่วงหน้านาน ๆ มีแต่ข้อดี ไม่มีข้อเสีย
นักเรียนภาษาสามารถเลือกวันเดือนปีได้ เช่น ร.ร. เอกชนประเภทแรก สามารถเริ่มเรียนได้ทุก ๆ วันจันทร์
ส่วนในประเภทที่สองนั้น ส่วนใหญ่จะมีตารางเรียนปฏิทินค่อนข้างชัดเจนว่าเปิดเมื่อไหร่
4. เตรียมเงินให้เหมาะสม Financial Matter
จะบอกว่าไม่สำคัญไม่ได้ งบประมาณ และสถานะการเงิน ผู้สนับสนุนเป็นสปอนเซอร์ในการเรียน เนื่องจาก โรงเรียนจะขอดู Statement ว่าคลอบคลุมต่อการดำรงชีพ และค่าเทอม เอกสารนี้จะต้องเตรียมยื่นทันที เมื่อส่งให้ใบสมัครให้โรงเรียน หรือหลังจากยื่นใบสมัครไปนิดหน่อย ส่วนว่าต้องเตรียมเท่าไหร่ ให้คำนวณง่าย ๆ ตามระยะเวลาที่เราไปเรียน เช่น เรียน 1 ปี ควรมีอย่างต่ำกลม ๆ คำนวน ง่าย ๆ 1 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนค่าเรียนเท่าไหร่ก็ควรมีเท่านั้นตามหลัก ค่าเรียน บวกค่าครองชีพ ดังนั้น นักเรียนที่คิดจะไปเรียนต่อ จำนวนเงินที่แสดงต้องมีชัดเจน ถึงแม้ว่าเงินจะไม่ใช่ตัวแปลทั้งหมดในการได้วีซ่า แต่ก็นับว่าเป็นด่านแรกที่จะทำให้เจ้าหน้าที่โรงเรียนและสถานทูตเชื่อมั่นได้ว่า เป็นนักเรียนที่แท้จริง บางคนบอกว่ามีไม่ถึงเป็นคำถามเหมือนไม่ได้เตรียมตัวไปต่างประเทศเลย คำตอบ ไม่ถึงเราก็ไปเตรียมให้ถึงครับไม่ต้องรีบครับ ทุกอย่างควรมีการวางแผน หากต้องการไปเรียนต่างประเทศและเป็นประเทศที่เป็นมหาอำนาจใหญ่ นอกจากจะต้องมีคุณสมบัติที่ดีตามกฎ เงินก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญท้ายสุดอยู่ดีครับ
5. เตรียมตัวเรื่องวีซ่า สัมภาษณ์ Visa and Interview
เรื่องวีซ่า พูดไปยาว ๆ ได้เลยครับ สำหรับนักเรียนที่จะไปเรียนภาษา จะบอกว่ายากก็ยากอยู่ แต่สิ่งที่ว่ายากนั้น เรามองว่าอยู่ที่ตัวนักเรียนในการจะให้สัมภาษณ์ด้วยข้อมูลที่ แต่มีคำแนะนำจากสถิติที่พอรวบรวมได้มาเพื่อเป็นความรู้ละกันครับ ทางศูนย์เราไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ในการให้คำตอบหรือการันตีได้ว่านักเรียนคน ๆ นั้นจะได้วีซ่าหรือไม่อย่างไร เพราะคนที่จะอนุมัติวีซ่าหรือเจ้าหน้าที่ในสถานทูต ยกตัวอย่างเป็นเคสให้ฟัง ในเคสที่ไม่ค่อยจะได้
ส่วนใหญ่มักมีเหตุการณ์ หรือ มีความเหมือน ๆ กันหลายอย่างๆ เช่น
- คนที่ไม่เคยเดินทางมาก่อนเลย แบบพาสปอร์ตขาว ๆ แล้วจะขอวีซ่าอเมริกาเป็นครั้งแรก จะบอกว่าสถิตินี้รอดยากมากครับ
- อธิบายไม่ชัดเจน ภาษาบ้าน ๆ คือ พูดจาวกวน มีความกลัว รก ๆ รน ๆ ตอบแบบไปไม่เป็น ไปงง ๆ ประหม่า และตอบไม่ตรงคำถาม ถึงแม้ว่าเราจะภาษาไม่ได้นะครับ ไม่ได้หมายความว่าเราพยายามอธิบายไม่ได้นะครับ บางคนตอบไปคนละทิศละทาง บางคนก็เลี้ยวโค้งไม่เค้าลำสักที หรือบางคนก็กลัวจนตอบไม่ถูก อึ้ง แบบนี้ไม่รอดนะคับ แต่บางคนที่ภาษาไม่ได้ แต่สภาวะข้างบนไม่มีเลย มีน้องนักเรียนที่ภาษาไม่ได้ดีเลย ว่ากันว่าติดลบก็ว่าได้ แต่ว่ามีความพยายามจะตอบ ผิดถูกแต่เข้าใจพยายามสื่อสาร และชัดเจนในการตอบ แกรมม่าก็หลงทาง แต่สำคัญเค้าพยายามฟัง และพยายามตอบด้วยความมุ่งมั่น อันนี้ก็สำเร็จได้เช่นกันครับ
ให้คิดหลักสั้น ๆ ว่า เจ้าหน้าที่มองป้าดเดียวจริง ๆ บางคนใช้เวลานับลมหายใจไม่ถึง ยี่สิบครั้ง ก็รู้ผลแล้วว่าได้ไม่ได้ เจ้าหน้าที่เค้าเห็นใบสมัครมาเยอะครับ เค้ามองรู้คาแรคเตอร์และเข้าใจลักษณะของผู้สมัครประเภทไหนที่เค้าอยากได้เข้าประเทศ การตอบคำถามให้ตรงใจกรรมการ พูดง่าย ๆ ยกตัวอย่าง นางงามจักรวาลควรตอบคำถามให้ถูกใจสายตากรรมการ มีกึ๋น มีปฏิภาณ ถึงชนะใจใช่มั้ยครับ เคสแบบนี้ก็คล้าย ๆ กัน ตอบให้ถูกใจเค้า นั้นแหละครับ
สำหรับนักเรียนที่สมัครเรียนกับสถาบันการศึกษาผ่านทางศูนย์เรา ทางเราก็จะแนะนำเตรียมเอกสารให้ตรงตามกฎหมายที่สถานทูตต้องการ แต่ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการที่จะบอกหรือการันตีว่าผู้สมัครจะได้วีซ่าหรือไม่นะครับ การแนะนำเป็นเพียงการแชร์ประสบการณ์เล่าเรื่องราวจากสถิติจำนวนนักเรียนที่ผ่านมาเพื่อเป็นการแสดงความรู้แลกเปลี่ยนกัน ศูนย์ให้คำแนะนำเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกจากความรู้และประสบการณ์ด้วยความสุจริตและเต็มความสามารถที่มี
Content Owner: LAIS ข้อมูลอัพเดท ณ วันที่ 27/12/2021
The Lion Academy of International Studies
B Floor, Fashion Island Shopping Mall, Island Academy Zone, Ramintra Road, Bangkok 10230
Working hours Tuesdays – Fridays 10.00 am -19.00 pm Saturdays - Sundays 10.00 am -18.00 pm.
The Lion Academy of International Studies
Lion Academy คือศูนย์วางแผนเรียนต่อต่างประเทศ เรียนต่ออังกฤษ เรียนต่ออเมริกา เรียนต่อออสเตรเลีย เรียนต่อนิวซีแลนด์ เรียนต่อแคนาดา หากมองหา ที่ปรีกษาในการเรียนต่อต่างประเทศ เราพร้อมให้คำปรึกษาฟรีทุกขั้นตอนตั้งแต่การเลือกสถาบันการศึกษาที่เหมาะสมกับความต้องการ และความสามารถของนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนภาษาระยะสั้นไปจนถึงระดับปริญญาเพื่อต่อยอดอนาคตของท่าน
ฟรี! ให้คำปรึกษาเรียนต่อต่างประเทศ แนะแนวทางการเรียนต่อต่างประเทศ สนใจเรียนต่อต่างประเทศติดต่อมาที
The Lion Academy เราพร้อมให้ข้อมูลคุณ หรือ ใส่ข้อมูลติดต่อเบื้องต้นเพียงเล็กน้อยที่ฟอร์มด้านล่าง เราจะรีบติดต่อกลับโดยเร็วทึ่สุด..
*** หลังจากกดส่งแล้ว รบกวนรอ 5 วินาที ในการส่งนะคะ
ช่องทางการติดต่อเพิ่มเติม
หรือลูกค้าสามารถติดต่อเราผ่านทาง LINE ID เพียงคลิ๊กที่ลิงค์ด้านล่างได้เลยค่ะ...!
Tel. 02-074-9020 , Mobile 097-080-5659