TEAM THE LION : “NONG PLOY”
Programme: Marlborough Institute of Technology (NMIT) Bachelor of Viticulture and Winemaking
“Hello. สวัสดีค่ะ ชื่อ ณิชกานต์ ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ที่ Nelson Marlborough Institute of Technology (NMIT) คณะ Bachelor of Viticulture and Winemaking ได้ 1 เทอมแล้วค่ะ จุดเริ่มต้นของการมาเรียนที่นี่คือ เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมปีที่แล้วได้เจอWebsiteแนะแนวการเรียนต่อที่New Zealand เลยมีโอกาสได้เข้าไปดูแล้วพบว่าการเรียนที่นี่มีความน่าสนใจและได้รับการยอมรับสากล อีกทั้งมีบรรยายกาศที่สงบเต็มไปด้วยธรรมชาติซึ่งเหมาะกับการตั้งใจเรียน (จริงๆนะ) จากนั้นก็เริ่มหาข้อมูลจริงจังมากขึ้นว่าที่ประเทศนี้มีคณะอะไรที่น่าสนใจและเหมาะกับเราบ้าง ที่สำคัญต้องไม่ตกงาน (สำคัญมากๆๆๆ)
และแล้วความบังเอิญก็เกิดขึ้น วันนั้นหลังจากออกกำลังกายเสร็จก็มาทานBBQ Plaza แล้วก็ได้เจอบูทแนะแนวการเรียนต่อThe Lion Academy of International Studies (LAIS) ซึ่งตอนนั้นก็คิดว่าลองเข้าไปถามดูเพื่อจะได้Ideaอะไรบ้าง แล้วก็โชคดีมากๆเพราะได้เจอพี่คิตตี้ เราคุยกันนานมากและพี่ได้ให้แนวทางเยอะมาก จากนั้นเราก็เริ่มมาคุยกันจริงจังว่าอะไรที่อยากเรียนจริงๆ ในตอนนั้นมีหลากหลายตัวเลือกมาก จนมาจบกันที่ Viticulture and Winemaking หลังจากได้คณะที่ต้องการแล้ว เราก็ต้องมาหามหาลัยที่เปิดสอนกัน และก็ได้ NMIT เป็นตัวเลือก พอได้ข้อมูลครบแล้ว ก็เริ่มลุยกันเลย
ในตอนแรกมีแพลนว่าจะไปเรียนต่อช่วง July 2017 แต่พอสอบถามไปทางมหาลัยก็ได้คำตอบว่าเค้าเปิดรอบ February เท่านั้น OMG!!! เรามีเวลากันเท่าไรเนี่ย นี่ก็ปลายตุลาแล้ว ต้องสอบIELTs ด้วย มันคืออะไรยังไม่รู้เลย เริ่มต้นไม่ถูก หลังจากตั้งสติได้ก็เริ่มจากการไปเตรียมเอกสารต่างๆ ซึ่งทางพี่คิตตี้จะเป็นคนแปลและส่งไปให้ทางมหาลัย ถ้าที่เราคือไปเตรียมเอกสารมาก (ง่ายๆมากๆ) และก็เริ่มหาที่เรียนภาษาอังกฤษ จำได้ว่าตอนนั้นเรียนหนักว่ากดดันมากเพราะมีเวลาแค่1เดือนในการเรียนก่อนไปสอบช่วงต้นธันวาคม พอไปสอบครั้งแรกก็พบว่ามันยากมากเพราะเราเองก็กดดันตัวเอง อยากจะสอบรอบเดียวให้ผ่าน ตื่นเต้นต่างๆนานา 2อาทิตย์หลังจากสอบเสร็จ คะแนนก็ออกมา Failมากไม่ผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนด ตอนนั้นเสียใจและก็ไม่รู้ว่าจะสู้ต่อดีไหมถ้าสอบใหม่แล้วคะแนนกว่าเดิมละ บลาๆๆๆเยอะมาก ก็ได้โทรไปคุยกะพี่คิตตี้ซึ่งคำพูดของพี่เค้าทำให้เราตัดสินใจที่จะสอบใหม่ เพราะว่าการสอบต้นมกราคมเป็นโอกาสสุดท้ายของเราแล้วเพราะหลังจากนั้นก็จะไม่ทันส่งเอกสารทำVISA พี่คิตติ้พูดว่า “ถ้ายอมแพ้ตอนนี้มันก็ได้ แต่มันก็จะมีคำถามคาใจว่ายังเหลือโอกาสอีกครั้งซึ่งเราอาจจะทำสำเร็จก็ได้ แต่เรากลับทิ้งโอกาสนั้นไปเพราะความกลัว” และนั้นทำให้เราฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้งบวกติวเข้ม2สัปดาห์ก่อนสอบ ในช่วง2สัปดาห์สุดท้ายของสิ้นปี เหนื่อยมาก สู้มาก ทำการบ้านเยอะมาก เขียนEssayเยอะมาก เพราะพี่คิตตี้ บอกว่าเคยมีคนพูดว่า ถ้าเขียนEssayได้เกิน 30 หัวข้อใน2สัปดาห์จะได้คะแนนเกิน6 แล้วจะรออะไรละ ลุยเลย!!! ในช่วงนั้นถือว่ายากลำบากมากบางครั้งก็มีความขี้เกียจอยากพักอยากเที่ยว แต่พอคิดว่า เราต้องทำให้ได้ ต้องพิสูจน์ตัวเอง และต้องไม่ทำให้พี่คิตตี้ผิดหวัง หลังจากไปสอบรอบที่สองมา รู้สึกว่าเราทำเต็มที่แล้ว ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร พอประกาศผลออกมา คะแนนเขียนพุ่งปรู้ดมาที่ 6.0 จาก 5.0 แต่ก็ยังไม่ผ่านคะแนนรวม อยู่ดีแต่โชคดีที่มีเจ้าหน้าที่จากมหาลัยเดินทางมาที่ไทยพอดี เราเลยมีโอกาสได้คุยกัน แล้วสุดท้ายก็ได้เข้าไปเรียน การมาเรียนทำให้รู้ว่า เราต้องมีทักษะทางภาษที่ดี เพื่อที่จะทำให้เราสามารถเรียนได้ การมาเรียนต่างประเทศไม่ได้สบายหรือง่ายเสมอไป แต่การมาเรียนต่างประเทศให้ประสบการณ์ ทั้งการเรียน การเข้าสังคม การใช้ชีวิต ที่ซึ่งมันคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปอย่างแน่นอน.
สุดท้ายนี้อย่ากลัวที่จะเริ่มต้นในสิ่งใหม่ๆ ถ้ามีความตั้งใจมีPassionก็เริ่มลงมือทำได้เลย อย่ารอเพราะนั่นจะทำให้คุณเสียโอกาสหลายๆอย่างไป ถ้ายังไม่มั่นใจว่าจะเริ่มต้นยังไงกับการมาเรียนต่างประเทศ เดินเข้ามาที่ The Lion Academy ได้เลย เพราะที่นี่จะช่วยคุณค้นหาสิ่งที่ใช้และเหมาะสม แค่มีPassion ก็เพียงพอแล้ว ความพยาม+ลงมือทำ = ความสำเร็จ ที่นี่จะแลคุณเหมือนครอบครัวไม่ใช้ลูกค้า เพราะงั้นมาเป็นครอบครัวเดียวกันนะคะ”